สวัสดีครับทุกท่าน เรื่มต้นอาทิตย์กันด้วยของเล่นใหม่ที่ผมได้รับมาวันนี้จากทาง Rapoo Thailand ที่มอบคีย์บอร์ด รุ่นใหม่มาให้รีวิวกัน ถ้าเป็นคีย์บอร์ดและเม้าส์ ธรรมดาก็ดูจะไม่น่าสนใจ แต่รุ่นนี้นั้นมันเบาหวิวได้ใจผมจริงๆ ชื่อรุ่นนั้นก็คือ Rapoo 8900P เรามาดูกันครับว่าทำไมผมถึงบอกว่าเบาหวิวครับ
สำหรับคีย์บอร์ดรุ่นนี้นั้นได้รางวัล IF Product design award 2013 มาด้วยครับ และผมก็ไม่แปลกใจเลยที่รุ่นนี้นั้นได้รับรางวัล เพราะว่าตอนจับกล่องดูก็เป็นเหมือนคียบอร์ดทั่วไปครับ แต่พอแกะออกมาแล้วทุกท่านจะทราบว่าเพราะอะไร มาดูด้านในกันดีกว่าครับว่าทำไมผมถึงบอกว่าไม่แปลกใจที่ได้รับรางวัล
ด้านหลังก็จะบอกรายละเอียดของตัวสินค้าว่าใช้ระบบสัญญา แบบ 5 GHz ซึ่งเป็นเจ้าแรกในโลกที่ทำ ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดแบตมากขึ้นครับ และรุ่นนี้นั้นก็ไม่ได้มีแค่คีย์บอร์ดนะครับ แต่มีเม้าส์ที่เป็นแบบ Laser มาด้วย เป็นเซ็ท คอมโบมาเลยครับ และอีกจุดเด่นอีกอย่างนั้นคือ คีย์บอร์ดนี้ออกแบบมาอย่างพิเศษสำหรับคนชอบไฟ จะเป็นยังไงติดตามต่อเลยครับ
เปิดมาที่ด้านในคีย์บอร์ดสวยมากครับ ต้องขอชมเลยว่ารุ่นนี้นั้ ทำคีย์บอร์ดออกมาได้สวยงามน่าใช้มากๆ วัสดุที่ทำออกมาดีมากครับ และที่สำคัญด้านหลังของคีย์บอร์ดเป็นอลูมิเนียมด้วย ซึ่งถ้าเทียบกับราคาถือว่าเกินคุ้มครับ
มาดุแบบเต็มๆกันดีกว่า ทั้งเซ็ทที่ให้มาจะมี เม้าส์พร้อมกับคียบอร์ดครับ ซึ่งมีตัวรับสัญญาณ หรือว่าตัว Receiver เพียง 1 ตัวครับ ช่วยประหยัดพอร์ตไปได้เยอะครับ สำหรับหลายๆเครื่องๆที่พอร์ต USB มีไม่เยอะมาก
พูดถึงกันแต่คียบอร์ดไปเยอะ ลองมาดูในส่วนของเม้าส์กันบ้างครับ ตัวเม้าส์นั้นเป็นแบบ Laser ซึ่งจะให้การตอบรับได้ดี และสามารถปรับ DPI ได้ครับ อ่านไม่ผิดนะครับปรับ DPI ได้ โดยมีสองระดับด้วยกันคือ 800 และ 1600 ครับ (เม้าส์โดยส่วนมากในราคาเป็นเซ็ทไม่สามารถปรับ DPI ได้ครับ ยกเว้นเม้าส์สำหรับเกมมื่งเท่านั้น) และที่ทาง Rapoo ถือว่าใส่ใจกับรายละเอียดด้วยก็คือด้านล่างของเม้าส์สามารถเก็บตัว Receiver ได้ด้วย เป็นอีกทางนึงที่ช่วยไม่ให้หายได้ง่ายครับ
ส่วนอีกหนึ่ง Feature สำคัญสำหรับคนชอบฟังก์ชั่น ผมต้องยกให้กับรุ่นนี้เลยครับ เพราะว่ารุ่นนี้นั้นมีไฟ Backlight สำหรับฟังก์ชั่นพิเศษ บนแผงของคีย์บอร์ดครับ และเจ้าไฟ Backlight นี้จะทำงานก็ต่อเมื่อเอามือของเราไปใกล้ๆ เหมือนกับฟังก์ชั่นของการรับสายมือถือ ซัมซุง S4 ครับ ซึ่งใช้งานง่ายมากๆ และหากว่าไม่ได้ใช้มันก็จะปิดตัวของมันไปเองในเวลาอันสั้นครับ
อีกสื่งที่สำคัญสำหรับการใช้งานนั้น ผมคงจะไม่พูดเรื่องนี้ไม่ได้ครับ เพราะว่าคีย์บอร์ดนี้บางเพียง 4 mm. เท่านั้น (พระเจ้าจอร์จมันยอดมาก) ผมต้องบอกว่าทึ่งมากกับการดีไซน์ของ Rapoo ที่สามารถทำให้มันบางได้ขนาดนี้ครับ บางมากๆพร้อมกับการดีไซน์ที่หรูหรา และที่สำคัญราคาสามารถเอื้อมถึงได้ไม่ยากด้วย
สำหรับตอนนี้นั้นทาง Rapoo Thailand ได้นำเข้ามาจัดจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว ราคา 2,590 บาทนะครับโดยประกันสินค้าที่ 2 ปี ครับ
สำหรับวันนี้ผมก็ต้องขอลากันไปก่อน ขอขอบคุณ Rapoo Thailand มากครับที่เอื้อเฝื้อสินค้าในการรีวิว แล้วพบกันใหม่กับรีวิว ของเจ๋งๆ กันได้ที่นี้เร็วๆนี้ครับ
Facebook : https://www.facebook.com/RapooThailand
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น