IT

วันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556

Tt theron Mouse เม้าส์สำหรับเกมเมอร์ตัวจริง

     สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ผมได้มีโอกาสลองสินค้ารุ่นใหม่อีกรุ่นนึงจากทาง Ttesports ครับ ซึ่งเป็นเม้าส์รุ่นใหม่ Theron Infrared นั้นเองครับ หลายๆคนอาจจะเคยเห็นเม้าส์รุ่นนี้กันมาบ้างแล้ว แต่สำหรับรุ่นนี้นั้น แตกต่างจากรุ่นเก่ายังไงนั้น มาดูกันเลยครับ




     เราเรื่มกันที่กล่องก่อนเลยนะครับ มาในสไตล์  ดำแดง  ตามคอนเซ็ปต์ของทาง Ttesports   เค้าเลยครับสีสันที่ตัดกันออกแบบมาได้ดุดันมาก (แต่ก็อย่างที่บอกผมไม่เน้นกล่อง ผมเน้นคุณภาพด้านในล้วนๆ)

     ในส่วนของกล่องนั้นจะสามารถเปิดฝาออกมาเพื่อดูได้ด้วยว่ารูปร่างหน้าตาของเม้าส์เป็นอย่างไรครับ ด้านในนี้ออกแบบมาได้ดุดันดี รวมถึงมีรายละเอียดของสินค้ามาให้ดูด้วย ซึ่งถือว่าครบและง่ายต่อการใช้งานทั่วๆไปดีครับ

      อย่าได้รอช้าเปิดกล่องมาดูกันว่ามีอะไรอยู่ข้างในบ้าง ในกล่องก็แน่นอนครับจะมีเม้าส์ Theron มาด้วย พร้อมทั้งคู่มือและแผ่นไดร์เวอร์ (ถ้าหายก็สามารถหาดาว์นโหลดได้นะครับ) และมีกระเป๋าสำหรับใส่เม้าส์มาให้ด้วย



     พูดถึงของจุกจิกที่แถมมาให้ หรืออย่างอื่นแล้ว ก็มาลุยกันต่อในส่วนของพ่อพระเอกของเราดีกว่าครับ เม้าส์  Theron นี้ จริงๆคือ รุ่นที่สองแล้วสำหรับเม้าส์รุ่นนี้ (หรืออาจจะ 3 ) เพราะว่าเนื่องจากในรุ่นแรกที่ออกแบบมานั้นจะเป็นในส่วนของ Laser Mouse นั้นเองครับ และยังมีเวอร์ชั่นพิเศษอีก 4 สีด้วยกัน

    ในเม้าส์รุ่นนี้นั้น ผมบอกได้เลยว่าเหมาะสำหรับคนมือค่อนข้างใหญ่นะครับ เพราะว่าตัวเม้าส์นั้นจะค่อนข้างอูมพอสมควร (คนมือเล็กก็ได้ถ้านิ้วยาวพอ) และการปรับค่า DPI ก็สามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยปุ่มปรับขึ้นลงตรงกลางได้เลย ซึ่งง่ายดายมากๆ หากแต่ว่าเหล่านักเล่นเกมส์ทั้งหลายอย่างปรับแต่งอะไร ทางTt ก็มีแผ่นโปรแกรมมาให้ลง เพื่อใช้โปรแกรมในการปรับแต่งก็สามารถทำได้ง่ายครับ


      มาดูในส่วนด้านล่างของเม้าส์กันครับ จะมีปุ่มสำหรับปรับเปลี่ยน และเซ้ทอัพให้เม้าส์จำค่าต่างๆด้้วย (เม้าส์เกมทั้งหมดจะมี  หน่วยความจำสำหรับเก็บค่าไว้)  และที่สำคัญเม้าส์ตัวนี้เหมาะมากที่จะเอาไว้เล่นเกมประเภท FPS หรือเกมแบบยิงครับ เพราะว่าเม้าส์รุ่นนี้ใช้ Infrared optical ซึ่งช่วยให้การใช้งานได้ลื่นไหลมาก และที่สำคัญสามารถเอาไว้ใช้กับเครื่อง  Mac ได้ด้วย

    ส่วนในการใช้งานสามารถปรับน้ำหนักได้ ซึ่งสามารถปรับน้ำหนักได้ตามที่ต้องการ ซึ่งนี้เป็นอีกความพิเศษที่เม้าส์ทั่วไปจะทำไม่ได้ครับ (เลยทำให้มีราคาแพงตามไปด้วยมั้ง)



     ส่วนหัวข้อต่อก็จะเป็น USB หัวทองครับ ซึ่งจะช่วยให้การรับส่งข้อมูลเวลาเล่นเกมนั้น ตอบสนองได้อย่างดีมากขึ้นด้วยครับ สำหรับวันนี้ต้องขอขอบคุณทาง  Ttesports สำหรับสินค้ารีวิวครับผม ส่วนข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดตามได้ที่ 

Facebook : https://www.facebook.com/Ttesportsthailand?fref=ts
Website : http://www.ttesports.com



วันอังคารที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ลั้นล้ากลางใจเมืองไทเป เมืองแห่งไอที ที่มีดีมากกว่าที่คุณคิด

     สวัสดีครับทุกท่าน ห่างหายไปนานเลย มาถึงช่วงสุดท้ายของการไปทริปที่ไต้หวันกันดีกว่า ในช่วงสุดท้ายนี้เราจะอยู่กันในตัวเมืองไทเปครับ ซึ่งผมพักอยู่ที่ Ximen ซึ่งถ้าเปรียบกับบ้านเราก็สยามดีๆนี้เอง และเพราะว่าที่นี้นั้นเป็นเหมือนสยามบ้านเรา  ความสนุกสนานจึงบังเกิด   สินค้าให้ช๊อปเยอะมว๊ากๆๆ ของกินนั้นก็ยื่งเยอะ และที่สำคัญคือแหล่งช๊อปปิ้งสำหรับ นักเรียน นักศึกษา ซึ่งก็อายุอานามพอๆกับผมนี้เอง(แอบแอ๊บนิดนึง)






ผมประเดิมมื้อแรกที่นี้ด้วยอาหารญี่ปุ่นครับ หากว่าท่านใดเคยไปต่างประเทศ จะเข้าใจดีว่าการกินอาหารญี่ปุ่นให้อร่อยนั้นปลาต้องสด จะทำให้ได้รสชาติที่ใหม่สด และอร่อยจริง แต่มื้อนี้ที่ผมก็คือข้าวเป็นเซ็ทๆนี้หละครับ ราคาอย่างที่เห็นนี้ก็ไม่แพงมากครับประมาณ  150 บาทไทยเท่านั้น โดยร้านอาหารประเภทนี้จะเยอะมากในทุกๆเส้นของ Ximen เลยครั

     ส่วนมื้อที่สองผมก็จัดเต็มไม่แพ้กัน แต่คราวนี้ลองเปลี่ยนเป็น อาหารเกาหลีครับ ซึ่งเซ็ทนี้นั้น จัดกันจุกเลยทีเดียวครับทั้งๆที่ผมก็กินเยอะมากอยู่แล้วแต่เจอเซ็ทนี้เข้าไป บอกได้เลยว่าจุกครับ เซ็ทอาหารที่นี้จะราคาพอๆกับเรากินอาหารตามห้างบ้านเรา แต่ขนาดที่ให้มานั้น สำหรับผู้หญิงไทยสามารถกินได้สองคนเลยทีเดียว แต่เรามาเพื่อกินครับ ฉะนั้นจัดให้เต็มคราบ อย่าให้เหลือแม้แต่นิดเดียวจะเสียชื่อคนไทยครับ และที่สำคัญเซ็ทนี้ราคาเพียง 220 บาทเท่านั้น หม้อมาเป็นแบบเหมือนกินหมูกระทะกันเลยทีเดียว



หลังจากอิ่มได้ซักนิด ก็หาที่ย่อยอาหารด้วยตลาดกลางคืนครับ ที่ไต้หวันนี้มีตลาดกลางคืนเยอะมากครับ แต่ที่คนไทยนิยมไปกันมาก และไปสะดวกสบายที่สุด ก็คือตลาด Shilin Night Market ครับ ซึ่งมีของกินมากมาย ของขายก็มากมายเช่นเดียวกัน คราวนี้ผมได้ร่มแบบพิเศษเป็นของฝากครับ ที่บอกว่าพิเศษ เพราะว่าผมไม่เคยเห็นในไทย หรือว่ามีแต่ผมไม่รู้หว่า





     แต่ก็ซื้อมาแล้ว อย่าได้แคร์ครับ ถือว่าประสบการ์ณชีวิตกันไป และต้องบอกก่อนเลยว่าคนไต้หวันนิยมกินของทอดกันมาก โดยเฉพาะไก่ทอดครับที่ดังๆก็จะมีไก่ทอด Hot Star ชิ้นตามรูปที่เห็นนั้นกินกันได้สองถึงสามคนเลยทีเดียว ราคาตกชิ้นหละ 55 บาทครับ และมีแถมตั๋วสำหรับซื้อครั้งต่อไปลดอีก 5 บาท ถือว่าราคาน่าคบหาสุดๆครับ


และอย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ เรื่องตลาดกลางคิน เดินทางได้โดยใช้รถไฟฟ้าครับ ซึ่งราคาไม่แพงครับ (ถูกกว่าบ้านเราอย่างลิบลับ) ซึ่งที่นี้นั้นการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าถือว่าเป็นเรื่องปกติแล้วครับ โดยปกติจะเดินทางได้โดยการซิ้อตั๋วเดินทาง หากซื้อบัตรก็จะมีส่วนลดให้ด้วย (Easy Card) ซึ่งบัตรนี้สามารถใช้เดินทางรถไฟฟ้าได้อย่างสบาย และสามารถซื้อของใน 7-11 ได้ด้วย แถมเก็บแต้มสะสมได้ด้วยครับ


     กลับมาจากการเดินตลาดกลางคืนได้เกือบๆจะเที่ยงคืน กะว่าจะกลับโรงแรมนอน แต่คงจะนอนไม่ได้แน่ๆครับ เพราะว่าตลาดที่ Ximen นั้นยังไม่ปิด ก็ได้แต่ข่มใจไว้ แต่ใครจะไปอดใจได้ไหว บรรยากาศแบบนี้ไม่ได้เหมือนปกติ เราก็จัดไปซะหน่อยครับ




   และแล้วก็อดใจไม่ไหวจัด เต้าหู้เหม็น หรือ Stricky Tofu ไปอีก1 อย่าง ถ้าว่ากันตรงๆ ใครมาไต้หวันแล้วไม่เคยลองต้องบอกเลยว่ามาไม่ถึงครับ เพราะว่าเต้าหู้เหม็นนั้นเหมือนกับกระเพราไก่ไข่ดาวบ้านเรา มีทุกซอกทุกมุมของตลาดกลางคืนเลยทีเดียว สำหรับหลายๆท่านอาจจะไม่ชอบกลิ่นก่อนทอด แต่หลังทอดไปแล้วกินกับผักดองพร้อมกับซอส ขอบอกเลยครับว่าอร่อยเหาะครับ


  ต่อด้วยไก่ทอดครับ เจ้านี้หากใครไปไหนมาไหนด้วยรถไฟฟ้า ออกจากสถานีทางออกที่ 6 ออกมาก็เจอทันทีครับ ราคาก็มีให้เลือกสองไซส์ครับ 55 บาท หรือว่า 100 บาท  ถ้าใครชอบรสเครื่องเทศจัดๆบอกได้เลยว่ากินไก่ทอดเจ้านี้ไป อร่อยเหาะอย่าบอกใครครับ รสชาติเยี่ยมมากๆ

หลังจากนั้นก็ออกตะเวนเดินเล่นต่อ แต่ไปสะดุดตากับร่มเจ้าปัญหาครับ เดินมาใกล้ๆปรากฏว่าเค้าขายเข็มกลัดครับ ถือว่าแปลกทีเดียว เพราะว่าสามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้ สบายครับ (มีสาเหตุให้ทำไมต้องหิ้วไปไหนมาไหนได้สะดวกครับ)





   หลังจากนั้นก็หมดวันไปกับการกินการเที่ยวครับ ส่วนในช่วงวันก่อนกลับนั้น ก็แถมจะไม่ต่างจากตอนกลางคืน แต่ก่อนกลับก็ต้องจัดหนักกับอาหารไต้หวันที่เป็นแบบบุฟเฟต์ ซึ่งต้องบอกว่าเลยว่าเป็นที่นิยมสำหรับคนไต้หวันมากๆ สำหรับผมนั้นมาทุกครั้งต้องกินทุกครั้งไป เพราะว่ามีทุกอย่างเป็นบุฟเฟต์จริงๆ ซึ่งรวมทั้งเครื่องดื่ม ไม่ว่าจะเป็นเบียร์ Soft drink หรือว่าชา และสำหรับสาวๆคงจะชืื่นชอบเป็นพิเศษกับไอศรีมที่มีให้ทั้ง Hargen dazs และ Movenpick อ่านไม่ผิดหละครับ เป็นไอศรีมบุฟเฟต์ด้วย มีหรือจะอดใจไหว จัดหนักกันอีกมื้อก่อนกลับครับ




    ส่วนในตอนท้ายก็เดินเล่นทิ้งทวนครับ ซึ่งบอกได้เลยว่าเดินได้ไม่เบื่อครับ ของมีเยอะมากจริงๆ แต่จะติดตรงที่สินค้าบางอย่างถ้าหาเจอแล้วต่อราคาหละซื้อเลยนะครับ สำหรับร้านบางร้านที่วางบนถนนนั้น จริงๆแล้วเค้าไม่ให้ขายครับ พวกนี้เค้าจะมีทักษะอยู่แล้วถ้าหากว่าตำรวจจะมา ร้านจะหายวับไปในพริบตา และจะย้ายที่ทันที จนเราหาไม่เจอเอง ฉะนั้นถ้าสนใจอะไรยังไงแนะนำให้จัดเลยนะครับ ยกเว้นร้านที่มีร้านรวงก็หาดูซื้อได้ตามอัธยาศัยเลยครับ





สำหรับการไปไต้หวันแต่หละครั้งนั้นเป็นการเดินทางที่สนุกสนานครับโดยเฉพาะในโซนเมือง เพราะว่าสามารถหาซื้อของได้ค่อนข้างเยอะ ฉะนั้นถ้าเป็นไปได้ก็ลองเดินเล่นดูก่อน เพื่อสืบเสาะราคานะครับ ผมจะนำเรื่องราวต่างๆมาให้ชมกันใหม่ในปีหน้าสำหรับทริปที่ไต้หวันครับ แล้วพบกันใหม่นะครับ ^___^

วันจันทร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2556

Cronos หูฟังสำหรับคอเกมส์ที่ชอบสีสันในชีวิต

     สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้มีของเล่นใหม่มาให้ดูกันอีกครั้งครับ คราวนี้เป็นหูฟังสำหรับ ผู้ที่ชื่นชอบเล่นเกมครับ จากแบรนด์  Ttesports นั้นเองครับ  แต่ก็สามารถใช้กับเครื่องเล่นทั่วๆไปได้นะครับ มาดูรีวิวกันดีกว่า ว่าจะเป็นอย่างไรกันบ้าง 
     

  
   เรื่มแรกกับกล่องที่มาโทนดำแดง สีสวยงามมาก และที่แปลกกว่าใครเพื่อนคือกล่องแพ็คเกจที่มาก็ค่อนข้างเล็กและแบนมากๆ ต่างจากกล่องของหูฟังรุ่นอื่นๆที่มาแบบใหญ่อลังการ แต่อย่างพึ่งคิดว่ามากล่องแบนๆแล้วจะไม่มีคุณภาพนะครับ บอกได้เลยคุณภาพคับแน่นเต็มครับ



   มาดูกันที่ตัววัสดุก่อนเลยครับ รุ่นนี้นั้นวัสดุจะเป็นพลาสติกแบบเงาเคลือบนะครับ พร้อมทั้งมีโลโก้ของทาง Ttesport ที่เป็นรูปมังกรมาด้วย  ( โดยเฉพาะเวลาที่ต่อสายเข้าใช้งานแล้วโลโก้จะสวยมากครับ)



 
 ส่วนด้านในหูฟัง ทาง Tt ก็ไม่ได้ลิมที่จะใส่รายละเอียดลงไป เป็นตัวโลโก้ของทาง Tt นั้นเองครับ เรียกได้ว่ามีทั้งนอกทั้งในเลยทีเดียวและที่สำคัญหูฟังของ Tt ตัวนี้นั้นสามารถบิดหูฟังได้เหมือนกับหูฟังดีเจ ราคาแพงเลยทีเดียว

     
      ส่วนข้อต่อสำหรับปรับขนาดให้เข้ากับศรีษะของแต่หละคน ก็แตกต่างจากแบรนด์อุปกรณ์เกมอื่นๆ เพราะว่ารุ่นนี้นั้นเป็นเหล็กครับ ไม่ได้เป็นพลาสติกแบบ แบรนด์อื่นๆ ทำให้การใช้งานทนทานกว่า รุ่นอื่นๆแน่นอนครับ



    ในส่วนของสายอย่างที่เห็นในตอนแรกนั้นจะมีสามสาย ซึงได้แก่ สาย USB, สาย ไมโครโฟน และสายหูฟังครับ แต่สายที่เห็นนั้นสามารถ ถอดออกได้ครับ สำหรับเปลี่ยนใส่สายสำหรับฟังเพลงทั่วๆไปครับ ซึ่งจะแถมมาให้ด้วยในกล่องครับ


      ถ้าหากว่าจะหิ้วไปไหนมาไหน ทาง Tt ก็แถมกระเป๋ามาให้พร้อมสำหรับเอาไว้ใส่เดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกสบาย เรียกได้ว่าใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆกับอุปกรณ์ที่ให้มาครับ

ส่วนเวลาที่ใช้งานต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์นั้น บอกได้เลยว่าสีสันประทับใจมากครับ สีแดงจากหลอดไฟ LED เวลาใช้งานจริงๆสวยมากครับ ต้องบอกได้เลยว่าประทับใจกับ วัสดุที่ใช้ และคุณสมบัติพิเศษที่มีมาในหูฟังรุ่นนี้นั้นครับ


       สำหรับท่านที่สนใจในหูฟังตัวนี้ สามารถหาซื้อได้ตามร้านค้าทั่วไปได้ที่ร้านค้าชั้นนำทั่วไป  ส่วนราคาของหูฟังนั้นคือ 2,190 บาทเท่านั้นครับ

     สำหรับบทความนี้ต้องขอขอบคุณทาง Ttesports ที่เอื้อเฟื้อสินค้าสำหรับการรีวิวครับ สามารถติดตามสินค้าจาก Ttesports ได้ที่

Website: http://www.ttesports.com
Facebook: https://www.facebook.com/Ttesportsthailand?fref=ts

วันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2556

Alum Luxe เคสอลูมิเนียมไอโฟน 5 ที่ไม่ง้อน๊อต

       สวัสดีครับทุกท่าน  วันนี้ผมได้รับของเล่นใหม่มาอีกชิ้นจากทาง Luxa2 Thailand ครับ  นั้นก็คือเคส IPhone5 ครับ ซึ่งรุ่นที่ได้รับมาวันนี้คือ Alum Luxa IPhone5 Bumper ครับ ซึ่งชื่อก็บ่งบอกมาระดับนึงแล้วว่าจะเคสแนวไหน อย่าได้รอช้าเลยครับมาดูกันดีกว่า ว่ารุ่นนี้นั้นจะมีความแตกต่างอะไรยังไงกันบ้าง

     สำหรับรุ่นนี้นั้นทาง Luxa2 ออกแบบมาโดยใช้วัสดุคือ อลูมิเนียมแบบเดียวกับที่ผลิตกับเครื่องบินเลยครับ ซึ่งความแข็งแรงนั้นเรียกได้ว่าแข็งแรงมากๆ และมาพร้อมกันถึง 5 สีด้วยกัน คือ สีแดง สำดำ สีฟ้า สีเทา และสีชมพูครับ 

   


  วันนี้ที่ผมได้รับมาคือสีชมพู ซึ่งเหมาะมากกับ IPhone 5 สีขาวครับ สีตัดกันดีแบบลงตัวมากๆ มาดูกันที่แพ็คเกจก่อนเลยที่มองเห็นถึงตัวของผลิตภัณท์ได้เลย และต้องบอกว่ารุ่นนี้นั้นไม่ได้มีความพิเศษแค่เป็นอลูมิเนียมที่ไว้ใช้ผลิตเครื่องบินเท่านั้น แต่ยังมีอย่างอื่นอีก (เดียวจะทยอยบอกเรื่อยๆนะครับ)

      เรื่มเปิดกล่องออกมาก็จะเจอกับเคสอลูมิเนียมแบบมันวาว รุ่นนี้นั้นอลูมิเนียมจะมันๆลื่นๆซักนิด ซึ่งจะแวววาว เมื่อกระทบกับแสงไฟครับ และสัมผัสได้เลยว่าเนื้องานเนียบมาก และมีร่องให้จับได้แน่นเวลาใช้งานจริงๆ

 

    ส่วนความพิเศษของเคสรุ่นนี้นั้น ยังมีความพิเศษที่แตกต่างจากเคสอลูมิเนียมทั่วไปครับ เพราะว่าเคสอลูมิเนียมในตลาดทั่วๆไปจะต้องใช้น็อตโดยประมาณสี่ตัว ซึ่งเป็นน๊อตชนิดพิเศษ รวมถึงเวลาใส่ และถอดออกต้องใช้เครื่องมือพิเศษในการถอดและใส่แต่สำหรับรุ่นนี้นั้นไม่จำเป็นต้องมีน๊อตครับ     เพราะว่ามีตัวล๊อคมาแล้วเรียบร้อย ซึ่งง่ายต่อคนที่ชื่นชอบในการเดินทางไปที่ต่างๆโดยไม่ต้องกังวลว่าไอโฟนจะเป็นรอย และก็สามารถถอดเคสออกมาเปลี่ยนซิมได้ง่ายต่างจากเคสรุ่นอื่นในท้องตลาดทั่วไปครับ














     ส่วนอีกหนึ่งความพิเศษสำหรับเคสตัวนี้นั้น ไม่ได้มาแค่วัสดุที่เป็นอลูมิเนียมเท่านั้น แต่ยังมีวัสดุอีกหนึ่งชนิดที่น่าจะเป็นที่ถูกใจของสาวๆนั้นก็คือ วัสดุจากทาง Swarovski ซึ่งติดมาให้ด้วยจำนวน 4 จุด(สองจุดซ้ายมือล่าง 2 จุดขวามือบน) ซึ่งฝังมาให้เรียบร้อยดูแล้วหรูหราอลังการมากครับสำหรับเคสรุ่นนี้

     และอย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้นั้น สีที่ผมได้มานั้นเหมาะมากับสีขาว แต่ไม่ใช่ว่าสีดำใส่ไม่ได้นะครับ แต่สีมันเข้ากันพอดิบพอดีกับสาว ในส่วนของการใช้งานจริงนั้น เนื้องานที่ทำออกมาดีที่เดียวครับ เวลาประกอบใส่เคสจะใส่เข้าได้กับมือถือพอดี อาจจะมีฟิตนิดหน่อย เพราะว่าป้องกันการเคลื่อนของมือถือเมื่อเวลาประกอบเข้ากัน ซึ่งรุ่นนี้นั้นเรื่มจำหน่ายในต่างประเทศแล้ว และประเทศไทยก็ใกล้ที่จะได้สัมผัสตัวจริงกันในเร็ววันนี้ครับ


     วันนี้ผมก็ต้องขอขอบคุณ Luxa2 Thailand สำหรับสินค้ารุ่น  Alum Luxe IPhone 5 Bumper ที่ให้มอบมาให้สำหรับการรีวิวครั้งนี้นะครับ ส่วนในครั้งหน้าจะมีอะไรมาจากทาง Luxa2 อีกนั้น ติดตามชมกันนะครับ สำหรับวันนี้สวัสดีครับ^___^



วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556

Avantree Hive หูฟังไร้สาย ที่ไม่ได้มีดีแค่ฟังเพลง

     สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ผมได้รับของเล่นใหม่แกะกล่องมาร้อนๆเลยทีเดียว ของที่จะเอามาให้ดูวันนี้เป็นหูฟังครับ แต่ถ้าใช้ได้แค่ดูหนังฟังเพลงก็คงจะเป็นเรื่องปกติ แต่สำหรับหูฟัง Avantree Hive ที่ผมได้มานั้น ไม่ได้เป็นหูฟังที่ใช้เพียงการดูหนังฟังเพลงนี้ซิครับ ( มันคือของเล่นดีๆ อีกชิ้นนี้เองครับ) เรามาดูกันครับว่าทำไมผมถึงเรียกว่าของเล่น




   

      เรื่มด้วยกล่องที่เรียบง่ายครับ สำหรับหลายๆท่านอาจจะบอกว่ากล่องค่อนข้างจะเรียบเกินไป แต่ก็อย่างที่เค้าว่ากันกล่องก็เป็นแค่เพียงรูปลักษณ์ภายนอก(ผมเน้นที่สินค้าและเรื่องการใช้งานมากกว่า) และด้วยรูปลักษณ์ เพียงเท่านี้หลายๆท่าน อาจจะบอกว่าเหมือนของจีน แต่ผมขอบอกครับอุปกรณ์เกือบจะทั้งหมดผลิตที่จีน แต่ ผ่านการคัดกรองโดยตัวแทนบริษัทครับ ดังนั้นขึ้นอยู่กับเสียง และความชอบส่วนตัวนะครับ


     เรามาเรื่มดูใส้ในดีกว่าครับ อย่าได้รอช้า เปิดกล่องมาก็จะมีกล่องสำหรับใส่ หูฟังมาอย่างเด่นสง่า สีดำโดดเด่นมาเลย ด้านในกล่องก็จะมีคู่มือมาให้ พร้อมสายสองเส้น(มีความพิเศษ  ในสายที่ให้มาด้วยนะครับ)




   

     ตัวหูฟังมาแบบเรียบๆ แต่วัสดุที่ออกแบบมานั้น ผมต้องบอกเลยว่าประทับใจมากกับหูฟังราคาระดับพันกลางๆ ที่ดีไซน์มาไม่ต่างจากหูฟังระดับหลายพันบาท





    ส่วนสายที่ให้มาก็จะมีสองสายด้วยกัน สายแรกก็คือสายสำหรับใช้ฟังเพลงในแบบสาย สำหรับในเวลาแบตหมด หรือว่าอยากฟังด้วยสายครับ สายที่ให้มาเป็นแบบสายแบนตามเทรนสมัยนี้ครับ สายสีแดงตัดกันดีกับสีดำของหูฟังจริงและคุณภาพก็ไม่เลวเลยครับ

     ส่วนสายที่สองนั้นเป็นสีดำครับ ซึ่งคือสายชาร์จไฟเข้านั้นเอง อย่างที่บอกก่อนหน้านี้ว่าสายที่ให้มามีความแปลกว่าสายอื่นๆหน่อย นั้นก็คือสายนี้นั้นเองครับ เพราะว่าสามารถชาร์จไฟจาก USB เข้ามาที่หูฟังด้วยแจ็ค 3.5 หรือว่าแจ็คหูฟังทั่วไป ซึ่งแบรนด์อื่นๆจะให้มาเป็น USB to Mini USB ครับ ซึ่งถือว่าเป็นสายเฉพาะทางสำหรับหูฟังรุ่นนี้ครับ ซึ่งการชาร์จหูฟังรุ่นนี้จะใช้เวลาเพียง 3 ชม เท่านั้นก็จะเต็มครับ


   มาดูกันชัดในด้านของตัวหูฟังครับ จะเห็นได้ว่าเนื้องานดีมากๆ มีไฟแสดงสถานะให้เห็นว่าเชื่อมต่อแล้วหรือไม่ (เป็นโลโก้ของทาง Aventree ครับ) และจะมีปุ่มเพื่อกดเล่นหรือว่าหยุดทางซ้ายมือ ส่วนเวลาจะรับสายก็กดปุ่มทางขวา ทำให้การใช้งานง่ายดายมากครับ

 ส่วนด้านล่างของหูฟังก็จะมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 เพื่อใช้สำหรับชาร์จ หรือจะเอาไว้ต่อสายฟังเพลงก็ได้ครับ รวมถึงหูฟังรุ่นนี้จะมีปุ่มเปิดปิดมาด้วย ซึ่งถือว่าเป็นมาตราฐานสำหรับหูฟังไร้สายครับ
  ส่วนปุ่มถัดมาก็จะช่วยในการใช้งานเวลาต้องการเปลี่ยนเพลง ไม่ว่าจะเร่งไปเพลงถัดไปหรือว่าย้อนกลับมาก็ช่วยให้ไม่ต้องหยิบมือถือ Tablet กันขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนเพลงเลย ก็ทำให้ง่ายมากขึ้นเวลาใช้งานครับ

      ส่วนหูฟังอีกด้านก็จะโล่งๆครับ สำหรับหูฟังรุ่นนี้นั้น สามารถใช้งานในการรับสายโทรศัพท์ได้ และคนที่รับสายก็ สามารถได้ยินเราเหมือนกับว่าเราแนบหูฟังติดกับหูเลยทีเดียว   ทั้งที่ไม่มีไมค์ออกมายื่นให้เกะกะ  เป็นอีกหนึ่งการใช้งานที่น่าประทับใจมากครับ

   การใช้งานที่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 18 ชั่วโมง ซึ่งถือว่านานมากกับการชาร์จเพียง 3 ชั่วโมง และสามารถ Standby ได้นานถึง 8 วัน สำหรับหลายๆคนคงจะเข้าใจว่าหูฟังรุ่นนี้นั้นราคาคงจะแพงน่าดู อย่าได้คิดอย่างนั้นครับ หูฟัง Aventree Hive ราคาเพียง 1,590 บาทเท่านั้น 
    อย่างที่ได้บอกไปก่อนหน้านี้ว่าผมชอบที่สินค้าว่าใช้งานได้ดีแค่ไหนมากกว่ารูปลักษณ์ภายนอก ซึ่งหูฟัง Aventree นั้นตอบโจทย์ได้ดีกับราคาค่าตัวที่ไม่ต่างจากหูฟังแบบสายที่ขายตามท้องตลาดเลยทีเดียวครับ สำหรับวันนี้ก็ต้องขอขอบคุณร้าน  S&P สำหรับหูฟัง Aventree Hive ที่เอื้อเพื้อในการทดสอบครับ หากท่านใดสนใจติดตามได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/SnpMultimediaSpeaker
Website: http://snpspeaker.co.th/2013/