เรื่มด้วยกล่องที่เรียบง่ายครับ สำหรับหลายๆท่านอาจจะบอกว่ากล่องค่อนข้างจะเรียบเกินไป แต่ก็อย่างที่เค้าว่ากันกล่องก็เป็นแค่เพียงรูปลักษณ์ภายนอก(ผมเน้นที่สินค้าและเรื่องการใช้งานมากกว่า) และด้วยรูปลักษณ์ เพียงเท่านี้หลายๆท่าน อาจจะบอกว่าเหมือนของจีน แต่ผมขอบอกครับอุปกรณ์เกือบจะทั้งหมดผลิตที่จีน แต่ ผ่านการคัดกรองโดยตัวแทนบริษัทครับ ดังนั้นขึ้นอยู่กับเสียง และความชอบส่วนตัวนะครับ
ตัวหูฟังมาแบบเรียบๆ แต่วัสดุที่ออกแบบมานั้น ผมต้องบอกเลยว่าประทับใจมากกับหูฟังราคาระดับพันกลางๆ ที่ดีไซน์มาไม่ต่างจากหูฟังระดับหลายพันบาท
ส่วนสายที่สองนั้นเป็นสีดำครับ ซึ่งคือสายชาร์จไฟเข้านั้นเอง อย่างที่บอกก่อนหน้านี้ว่าสายที่ให้มามีความแปลกว่าสายอื่นๆหน่อย นั้นก็คือสายนี้นั้นเองครับ เพราะว่าสามารถชาร์จไฟจาก USB เข้ามาที่หูฟังด้วยแจ็ค 3.5 หรือว่าแจ็คหูฟังทั่วไป ซึ่งแบรนด์อื่นๆจะให้มาเป็น USB to Mini USB ครับ ซึ่งถือว่าเป็นสายเฉพาะทางสำหรับหูฟังรุ่นนี้ครับ ซึ่งการชาร์จหูฟังรุ่นนี้จะใช้เวลาเพียง 3 ชม เท่านั้นก็จะเต็มครับ
มาดูกันชัดในด้านของตัวหูฟังครับ จะเห็นได้ว่าเนื้องานดีมากๆ มีไฟแสดงสถานะให้เห็นว่าเชื่อมต่อแล้วหรือไม่ (เป็นโลโก้ของทาง Aventree ครับ) และจะมีปุ่มเพื่อกดเล่นหรือว่าหยุดทางซ้ายมือ ส่วนเวลาจะรับสายก็กดปุ่มทางขวา ทำให้การใช้งานง่ายดายมากครับ
ส่วนด้านล่างของหูฟังก็จะมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 เพื่อใช้สำหรับชาร์จ หรือจะเอาไว้ต่อสายฟังเพลงก็ได้ครับ รวมถึงหูฟังรุ่นนี้จะมีปุ่มเปิดปิดมาด้วย ซึ่งถือว่าเป็นมาตราฐานสำหรับหูฟังไร้สายครับ
ส่วนปุ่มถัดมาก็จะช่วยในการใช้งานเวลาต้องการเปลี่ยนเพลง ไม่ว่าจะเร่งไปเพลงถัดไปหรือว่าย้อนกลับมาก็ช่วยให้ไม่ต้องหยิบมือถือ Tablet กันขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนเพลงเลย ก็ทำให้ง่ายมากขึ้นเวลาใช้งานครับ
ส่วนหูฟังอีกด้านก็จะโล่งๆครับ สำหรับหูฟังรุ่นนี้นั้น สามารถใช้งานในการรับสายโทรศัพท์ได้ และคนที่รับสายก็ สามารถได้ยินเราเหมือนกับว่าเราแนบหูฟังติดกับหูเลยทีเดียว ทั้งที่ไม่มีไมค์ออกมายื่นให้เกะกะ เป็นอีกหนึ่งการใช้งานที่น่าประทับใจมากครับ
การใช้งานที่สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 18 ชั่วโมง ซึ่งถือว่านานมากกับการชาร์จเพียง 3 ชั่วโมง และสามารถ Standby ได้นานถึง 8 วัน สำหรับหลายๆคนคงจะเข้าใจว่าหูฟังรุ่นนี้นั้นราคาคงจะแพงน่าดู อย่าได้คิดอย่างนั้นครับ หูฟัง Aventree Hive ราคาเพียง 1,590 บาทเท่านั้น
อย่างที่ได้บอกไปก่อนหน้านี้ว่าผมชอบที่สินค้าว่าใช้งานได้ดีแค่ไหนมากกว่ารูปลักษณ์ภายนอก ซึ่งหูฟัง Aventree นั้นตอบโจทย์ได้ดีกับราคาค่าตัวที่ไม่ต่างจากหูฟังแบบสายที่ขายตามท้องตลาดเลยทีเดียวครับ สำหรับวันนี้ก็ต้องขอขอบคุณร้าน S&P สำหรับหูฟัง Aventree Hive ที่เอื้อเพื้อในการทดสอบครับ หากท่านใดสนใจติดตามได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/SnpMultimediaSpeaker
Website: http://snpspeaker.co.th/2013/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น